โครงสร้าง โฟลเดอร์ Directory Structure laravel

ให้เพื่อนเข้าไปดูที่โฟลเดอร์ หลังจากโหลดมาเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ใน โฟลเดอร์ www ของเว็บจำลอง หลังจากนั้นมาดูโครงสร้างของโฟลเดอร์สำหรับ laravel กัน

S/N	DIRECTORY	DESCRIPTION
1	/app	contains all of your application code รหัสส่วนใหญ่จะอยู่ที่โฟลเดอร์นี้
2	/app/Console	contains all of your artisan commands ที่เก้บคำสั่งของ artisan เครื่องมือช่วยสร้าง
3	/app/Events	contains event classes
4	/app/Exceptions	contains exception handling classes
5	/app/Http	contains controllers, filters, and requests ที่เก็บรหัสพวก คอนโทรล ตัวกรอง ใช่บ่อยมาก
6	/app/Jobs	contains jobs that can be queued
7	/app/Listeners	contains handler classes for events
8	/bootstrap	contains files required by the bootstrap framework
9	/config	contains the application configuration files
10	/database	Contains database migrations and seeds. It is also used to store the database for SQLite เก็บไฟล์เชื่อมฐานข้อมูล
11	/public	contains the front controllers and assets such as images, CSS, JavaScript etc. เก็บคำสั่งแสดงหน้าเว็บ สคริป ภาพ
12	/storage	contains compiled blade templates, filed based sessions, etc.
13	/tests	contains automated unit tests
14	/vendor	contains composer dependencies เก็บคำสั่งของ laravel เลย composer ที่โหลดมาจะอยู่ที่นี้

การเชื่อมต่อฐานข้อมูล

ให้ไปแก้ไขที่ /config/database.php ที่ตำแหน่ง MySQL ในการใช้งานต้องดูด้วยว่าเราใช้ระบบฐานข้อมูลชนิดไหน เพื่อมีหลายแบบ แต่ตอนนี้ให้ทดลองที่ MySQL นะครับ

ให้แก้ไขตามนี้

แก้ไขที่

• database
• username
• password

ก่อนแก้ไข

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11

'mysql' => [
    'driver'    => 'mysql',
    'host'      => env('DB_HOST', 'localhost'),
    'database'  => env('DB_DATABASE', 'forge'),
    'username'  => env('DB_USERNAME', 'forge'),
    'password'  => env('DB_PASSWORD', ''),
    'charset'   => 'utf8',
    'collation' => 'utf8_unicode_ci',
    'prefix'    => '',
    'strict'    => false,
],

หลังแก้ไข

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11

'mysql' => [
    'driver'    => 'mysql',
    'host'      => env('DB_HOST', 'localhost'),
    'database'  => env('DB_DATABASE', 'test'),
    'username'  => env('DB_USERNAME', 'root'),
    'password'  => env('DB_PASSWORD', ''),
    'charset'   => 'utf8',
    'collation' => 'utf8_unicode_ci',
    'prefix'    => '',
    'strict'    => false,
],

ถ้าแก้ไขแล้วยังใช้ฐานข้อมุลไม่ได้

ให้แก้ไขที่ file .env อยู่ที่ root directory นำครับ

ที่ตำแหน่ง

DB_HOST=localhost
DB_DATABASE=test
DB_USERNAME=root
DB_PASSWORD=''

ได้แน่นอน

การติดตั้ง laravel 5.2

การติดตั้ง laravel 5.2

เตรียมระบบ Server ที่ต้องการคือ

• PHP >= 5.5.9
• OpenSSL PHP Extension
• PDO PHP Extension
• Mbstring PHP Extension
• Tokenizer PHP Extension

ถ้าทดลองทำก็ใช้ โปรแกรมที่สร้างเครื่องแม่ข่ายจำลอง เช่น WAMP, APSERVER หรือ XAMPP ก็ได้ แล้วแต่ถนัดนะครับ

การติดตั้ง Laravel 5.2

ในที่นี้จะติดตั้ง ผ่าน Composer โดยท่านจะต้องติดตั้งโปรแกรม composer ให้ไปที่นี้นะครับ getcomposer.org ดาว์นโหลดแล้วก็ติดตั้งเลย

ก่อนทำต้องให้คำสั่ง แสดงหน้าต่าง Command นะครับ

- พิมพ์ cmd ลงในช่องว่างของ start menu แล้วกดคีย์ Enter

การติดตั้งมี 2 แบบคือ

1. โหลดตัวโค้ดมาเก็บไว้ก่อน แล้วจึงสร้างโปรเจค

ติดตั้ง laravel โดยใช้คำสั่งผ่าน composer ดังนี้ ต้องแน่ใจว่าอยู่ใน โฟลเดอร์ที่โปรแกรมจำลองแม่ข่ายอ่านได้นะครับอย่าลืม

composer global require "laravel/installer"

แล้วสร้างโปรแจค ด้วยคำสั่งเช่น

laravel new blog

2. โหลดโค้ด laravel แล้วสร้างโปรเจคให้ด้วยเลย อย่าลืม ต้องแน่ใจว่าอยู่ใน โฟลเดอร์ที่โปรแกรมจำลองแม่ข่ายอ่านได้นะครับ เช่น

composer create-project --prefer-dist laravel/laravel blog

เลือกเอาหนึ่งวิธี แต่ผู้เขียนใช้วิธีที่ 2 นะครับ เพราะสะดวกดี

แต่จากนั้นก็คอย ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเตอร์เน็ตนะครับ ประมาณ 5 นาที

เมื่อโหลดครบแล้ว ก็จะได้โฟลเดอร์ที่ blog ตามที่เราตั้งชื่อโปรเจคไว้นะครับ

ทดลองเรียกใช้งานที่ browser ได้เลยครับ เช่น

http://localhost/blog/public/

จะแสดงหน้า Laravel 5 ให้เราเห็น แสดงว่าใช้ได้แล้ว ต่อไปมาพบการพัฒนาโปรแกรมครับ ทั้งเครื่องมือ และระบบการเขียน